Pillar Pages คืออะไร? มีผลอย่างไรกับ SEO?


Pillar Pages คืออะไร? มีผลอย่างไรกับ SEO?

Pillar Pages คืออะไร? มีผลอย่างไรกับ SEO?
Pillar Pages คืออะไร? มีผลอย่างไรกับ SEO?

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเริ่มเขียนบทความเพื่อ SEO เราต่างรู้กันดีว่าขั้นต่ำบทความของคุณควรจะมี 1,000 คำขึ้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับการค้นหาของ Google นอกจากนี้ยังจะต้องคอยดูเรื่องคีย์เวิรด์ภายในบทความอีกด้วย 

ส่วน Pillar Page นั้นคือหน้าหลักของเว็บไซต์ที่คลอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด ละเชื่อมโยงไปยังบทความอื่นๆ ในเว็บไซต์ที่เป็นหัวข้อคล้ายคลึงกัน เข้ามาจัดการให้เป็นระเบียบมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้มีผลกับการจัดอันดับค้นหา Google อย่างแน่นอน หากบทความเราสามารถขึ้นหน้าแรกของ Google ได้แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเว็บไซต์ของคุณอย่างแน่นอน

Pillar Page คืออะไร?

Pillar Page คืออะไร?
Pillar Page คืออะไร?

Pillar Page คือ ส่วนสำคัญของเนื้อหาที่ทำหน้าที่เป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับกลุ่มหัวข้อย่อย ซึ่งกลุ่มหัวข้อคือชุดของบทความหรือบล็อกโพสต์ในหัวข้อที่เกี่ยวข้องภายในหัวเรื่อง ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเชื่อมโยงไปหน้าต่างๆ ได้ผ่านหน้านี้ 

โดยที่ใน Pillar Page ก็จะถูกแตกย่อยออกมาเป็น Topic Cluster เป็นเหมือนแผนผังออกมาอีกที ทำให้ผู้อ่านสามารถเห็นภาพรวมและเลือกบทความอ่านได้ง่ายขึ้น โดยภายในหน้าเว็บก็จะเป็น Hyperlink เพื่อให้กดตต่อไปยังหน้าอื่น 

จะเห็นได้ว่ามีหัวข้อย่อยแตกออกมาจากหัวข้อใหญ่ ซึ่งตัวหัวข้อใหญ่เราเรียกว่า Pillar Page และหัวข้อย่อยคือ Cluster Page

Pillar Pages  และ Cluster Pages ช่วยปรับปรุง SEO ได้อย่างไร?

1. ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์

1. ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์
1. ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์

ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ทางเทคนิค ทำให้ Googlebot และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ รวบรวมข้อมูลได้ง่ายขึ้น ยิ่งเว็บไซต์ของคุณรวบรวมข้อมูลได้ง่ายเท่าใด Google ก็จะสามารถค้นหา และจัดอันดับหน้าเว็บของคุณได้ง่ายขึ้นเท่านั้น

โครงสร้างเว็บไซต์ที่เหมาะสมที่สุดคือ หน้าในเว็บไซต์ของคุณควรเข้าถึงได้ภายในสามคลิกหรือน้อยกว่าจากหน้าแรก 

2. ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้

2. ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้
2. ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้

กลุ่มหัวข้อยังช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น เมื่อเขากำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อหรือหัวข้อเฉพาะ

เมื่อคุณมีบทความที่เกี่ยวข้องกันหลายหน้า ก็ควรจะจัดกลุ่มหน้าเหล่านั้นไว้ด้วยกัน ด้วยวิธีนี้เมื่อมีคนค้นหาด้วย Keyword เช่น “UX UI” พวกเขาจะพบข้อมูลทั้งหมดที่ต้องการได้ในที่เดียว

การทำแบบนี้จะช่วยให้ผู้ใช้อยู่บนไซต์ของคุณนานขึ้น ทำให้อัลกอริทึมของ Google มีข้อมูลมากขึ้นเพื่อบ่งชี้ว่าคุณสมควรได้รับอันดับที่สูงขึ้น

3. จัดอันดับด้วย Keyword

3. จัดอันดับด้วย Keyword
3. จัดอันดับด้วย Keyword

เนื่องจากหน้าหลักเป็นหน้า HUB สำหรับหัวข้อหลัก จึงมีไว้สำหรับกำหนดเป้าหมายคำหลักแบบกว้างๆ และคำหลักแบบกว้างนั้นมีการแข่งขันสูงใน SERP เมื่อ Pillar Page มีอันดับ จะมีการเข้าชมมากขึ้น Backlink และเพิ่ม SEO ได้อีกด้วย 

4. ทำให้คนรู้จักคุณมากขึ้น

4. ทำให้คนรู้จักคุณมากขึ้น
4. ทำให้คนรู้จักคุณมากขึ้น

สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าเป้าหมายทั้งหมดของ Google คือการหาคำตอบให้ผุ้ใช้ การให้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีอาจเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีสำหรับผู้ใช้ ทำให้ความเชื่อมั่นใน Google ลดลง ซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายที่ Google ต้องการ

Google มีแนวคิดพื้นฐานสำคัญ 3 ประการที่อยู่เบื้องหลังปัจจัยการจัดอันดับ ได้แก่  Expertise (ความเชี่ยวชาญ), authority(อำนาจหน้าที่), and trust (ความไว้วางใจ) แนวคิดเหล่านี้หมายถึงว่าเนื้อหาของคุณตรงกับสิ่งที่ผู้คนค้นหามากน้อยเพียงใด 

วิธีสร้าง Pillar Page เพื่อปรับปรุง SEO ของคุณ

เมื่อคุณรู้วิธีสร้างกลุ่มหัวข้อแล้ว คุณจะสามารถใช้กลุ่มหัวข้อเหล่านี้เป็นพื้นฐานเมื่อเขียนเนื้อหาใหม่หรือเปลี่ยนแปลงเนื้อหาที่มีอยู่แล้วในเว็บไซต์ของคุณ

1. ตัดสินใจเลือกหัวข้อที่คุณต้องการจัดอันดับ

1. ตัดสินใจเลือกหัวข้อที่คุณต้องการจัดอันดับ
1. ตัดสินใจเลือกหัวข้อที่คุณต้องการจัดอันดับ

ขั้นตอนแรกในการสร้างหน้าหลักที่มีประสิทธิภาพคือการมีความคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับหัวข้อหลักที่คุณต้องการจัดอันดับ วิธีที่ดีที่สุดในการเลือกหัวข้อคือ การพิจารณากลุ่มเป้าหมายก่อน และตั้งเป้าให้ครอบคลุมหัวข้อเฉพาะเจาะจงที่คนอยากรู้ (ซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณด้วย)

2. Plug-In เครื่องมือ Keyword

2. Plug-In เครื่องมือ Keyword
2. Plug-In เครื่องมือ Keyword

ใช้ Plug In ต่างๆ สำหรับการทำบทความ เพื่อช่วยให้คุณเห็นว่า Keyword ไหนที่ผู้ใช้งานสนใจและค้นหามากที่สุด และนำมาปรับใช้กับหน้าเว็บไซต์ของคุณ 

3. ระบุคำ Keyword

3. ระบุคำ Keyword
3. ระบุคำ Keyword

โดยทั่วไป Pillar Page ของคุณจะมี Keyword แบบกว้างๆ และมีปริมาณมากในหัวข้อนี้ ซึ่งเราควรวางหัวข้อให้ดี เพื่อที่จะได้นำทางผู้ใช้งานไปยังส่วนหน้าเว็บบทความอื่นๆ ของเรา

4. สร้างเนื้อหาที่ดี

4. สร้างเนื้อหาที่ดี
4. สร้างเนื้อหาที่ดี

คุณควรดูแล SEO ในหน้าสำหรับแต่ละหน้าให้ดี ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใส่ Keyword เป้าหมายไว้ในชื่อ หัวเรื่อง ตลอดทั้งเนื้อหาของบทความ ในคำอธิบายเมตา แท็ก alt-tag ของรูปภาพ และอื่นๆ

การทำแบบนี้จะช่วยให้ ผู้ใช้งานสามารถหาบทความของคุณผ่าน Google ได้ง่ายขึ้น 

5. ดูแล Internal Link & หน้าคลัสเตอร์

เมื่อคุณเขียนหน้าหลักแล้ว คุณจะต้องใช้ Internal Link ไปยังบทความ Cluster ที่อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อหลักด้วย

ตัวอย่าง:

หากคุณเขียนเกี่ยวกับหัวข้อนี้แล้ว หัวข้อนั้นจะสามารถพาผู้ใช้ไปยังหน้าต่อไป หรือคุณอาจจะใช้วิธีนำคำบางส่วนของอีกบทความมาใส่ไว้ เพื่อเป็นการอธิบายสั้นๆก็ได้ 

ในบทความนี้ เราได้พูดถึงเนื้อหามากมายเกี่ยวกับ Pillar Page กลุ่มหัวข้อ และกลยุทธ์ด้านเนื้อหา กลุ่มหน้าหลักและหัวข้อต่างๆ สร้างขึ้นเพื่อให้ Google และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ รวบรวมข้อมูลได้ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของคุณในเรื่องที่คุณเขียนถึงอีกด้วย

ดังนั้นใครที่เพิ่งเริ่มต้นทำ SEO เราบอกได้เลยว่าเรื่องนี้ถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญมากๆ เริ่มต้นให้ลองเช็คตามที่เรากล่าวไว้ข้างต้นก่อนก็ได้ อาจจะค่อยๆ ลองปรับแต่ละส่วนให้เข้าที่ เชื่อได้เลยว่าเรื่องนี้ต้องเป็นผลดีกับเว็บไซต์ของคุณอย่างแน่นอน

อย่าลืมกดติดตามช่องทางต่างๆ ของเราเพื่อรับข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมกันนะ
บริการของเรา >> บริการ Astra studio 
Medium: Medium Astra Studio
Website: Astra Studio


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *